หากคุณไม่อยากเสียเงินเป็นล้านเพื่อค่ารักษาพยาบาล คุณก็จำเป็นต้องมีแผนประกันสุขภาพ โดยเฉพาะประกันโรคมะเร็ง ที่ครอบคลุมโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดในประเทศไทย กรมการแพทย์เปิดเผยสถิติว่ามีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 รายต่อปี หรือประมาณ 400 รายต่อวัน ดังนั้น ในปัจจุบันผู้คนควรให้ความสำคัญกับการทำประกันโรคมะเร็ง เนื่องจากโรคมะเร็งมักเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหาร การดื่มแอลกอฮอล์ การอดนอน ความเครียด และการทำงานหนัก ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง หากเราซื้อประกันโรคมะเร็งไว้ก่อนเจ็บป่วย จะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของคุณได้ ลองมาดูความคุ้มครองของประกันโรคมะเร็งกัน เรายังมีคำตอบสำหรับคุณหากคุณมีแผนประกันสุขภาพอยู่แล้ว
สารบัญ
สลับประกันภัยมะเร็งคุ้มครองอะไรบ้าง?
รู้หรือไม่? โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยมายาวนาน ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต มะเร็งที่พบบ่อยที่สุด 5 อันดับในประเทศไทย ได้แก่ 1. มะเร็งตับและท่อน้ำดี 2. มะเร็งปอด 3. มะเร็งเต้านม 4. มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และ 5. มะเร็งปากมดลูก
หากคุณเป็นโรคมะเร็ง คุณจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจใช้เวลานาน มะเร็งบางชนิดอาจต้องได้รับการรักษาที่ซับซ้อน ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายสูงถึงหลายแสนบาทหรือหลายล้านบาท ประกันภัยโรคมะเร็งให้ความคุ้มครองสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ความคุ้มครองนี้ช่วยให้คุณจ่ายโดยไม่กระทบต่อเงินออมของครอบครัว สร้างความอุ่นใจให้กับผู้ป่วย และสามารถมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูตนเองได้อย่างเต็มที่ ในกรณีนี้ ประกันภัยโรคมะเร็งที่ดีควรครอบคลุมค่าใช้จ่ายหลักๆ ดังนี้
- การวินิจฉัย โรคมะเร็งมีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุ และอาการของแต่ละชนิดก็แตกต่างกันออกไป การวินิจฉัยอาจมีความซับซ้อนและอาจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งครั้ง ดังนั้น ประกันภัยโรคมะเร็งจึงควรครอบคลุมเรื่องนี้
- คุ้มครองการรักษามะเร็ง โรค มะเร็งต้องได้รับการวินิจฉัยหลายขั้นตอนและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง เช่น การผ่าตัด การฉายรังสี เคมีบำบัด หรือการรักษาสมัยใหม่ เช่น การรักษาแบบเจาะจงเป้าหมาย ภูมิคุ้มกันบำบัด และการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งอาจมีความซับซ้อนและใช้เวลานาน ดังนั้น ประกันภัยมะเร็งที่ดีควรให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมสำหรับการรักษา เพื่อเพิ่มโอกาสในการหายจากโรคมะเร็ง
ข้อดีข้อเสียของการประกันภัยมะเร็ง
ประกันภัยโรคมะเร็งมีหลายประเภท ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขให้ละเอียดถี่ถ้วน หรือปรึกษาตัวแทนประกันภัยเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความต้องการและความคุ้มครองที่ครอบคลุม ประกันภัยโรคมะเร็งมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดีของการประกันภัยโรคมะเร็ง
- ลดภาระค่ารักษาพยาบาลไม่ให้กระทบเงินออมของครอบครัว
- การเข้าถึงการรักษามะเร็งขั้นสูงตามความจำเป็นเพื่อเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัว
- ให้ความคุ้มครองทางการเงินแก่ครอบครัวหากผู้เอาประกันเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง
ข้อเสียของการประกันภัยโรคมะเร็ง
- เบี้ยประกันภัยอาจสูง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ เพศ และความเสี่ยง
- อาจมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่จำกัดความคุ้มครอง
- ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถยื่นคำร้องขอค่ารักษาโรคมะเร็งได้ หากผู้เอาประกันภัยมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
ประกันภัยมะเร็งแต่ละประเภทอาจแตกต่างกันไป ดังนั้นโปรดศึกษาเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยมะเร็งก่อนตัดสินใจซื้อ
ประกันมะเร็งแพงไหม? ผู้ป่วยมะเร็งสมัครได้ไหม?
รู้หรือไม่? เบี้ยประกันมะเร็งไม่ว่าจะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ สุขภาพ เพศ ประวัติครอบครัว และแผนประกันที่เลือก โดยทั่วไป เบี้ยประกันมะเร็งจะแพงขึ้นเมื่อผู้ซื้อมีอายุมากขึ้น มีสุขภาพไม่ดี และเป็นผู้หญิง
นอกจากนี้ ผู้ป่วยมะเร็งสามารถซื้อประกันภัยโรคมะเร็งได้หรือไม่? คำตอบคือ ได้ แต่อาจมีข้อจำกัดบางประการ ก่อนสมัครประกันภัย บริษัทประกันจะพิจารณาประวัติสุขภาพของผู้เอาประกันภัยก่อนอนุมัติกรมธรรม์ ส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็งอาจถูกปฏิเสธหรืออาจต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงขึ้น ดังนั้น การซื้อประกันภัยไว้ก่อนเจ็บป่วยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพหรือประกันภัยโรคมะเร็ง ควรวางแผนก่อนเจ็บป่วย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและไม่ต้องตกอยู่ในเงื่อนไข
หากคุณมีประกันสุขภาพอยู่แล้ว ประกันมะเร็งยังจำเป็นอยู่หรือไม่?
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้วขณะรับการรักษามะเร็ง จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าวินิจฉัยโรค ค่าผ่าตัด ค่ารังสีวิทยา ค่าห้อง และค่าเอ็กซเรย์ ทั้งนี้ ประกันจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก
หากคุณมีแผนประกันสุขภาพที่ดีอยู่แล้ว คุณอาจไม่จำเป็นต้องซื้อประกันโรคมะเร็งแยกต่างหาก อย่างไรก็ตาม เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น คุณควรทำประกันโรคมะเร็ง เพราะประกันสุขภาพอาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งทั้งหมด เช่น ค่ายาบางชนิด หรือค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง เราควรซื้อประกันโรคมะเร็งไว้ก่อนเจ็บป่วย เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าความคุ้มครองของประกันสุขภาพที่มีอยู่
นอกจากนี้ การมีประกันโรคมะเร็งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลได้อีกด้วย จำนวนเงินคุ้มครองจะแตกต่างกันไปในแต่ละระยะของโรคมะเร็งเมื่อตรวจพบ หรือผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกรับเงินก้อนเมื่อตรวจพบมะเร็งได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีเงินชดเชยรายวันสำหรับกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคมะเร็งอีกด้วย
โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เราต่างก็มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย เพราะโรคนี้เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนัก อดนอน ไม่ออกกำลังกาย รวมถึงการรับประทานอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ การซื้อประกันสุขภาพและประกันโรคมะเร็งไว้ก่อนจะเจ็บป่วย ช่วยให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาหรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการหายจากโรคและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
อุ่นใจด้วยประกันภัยโรคมะเร็ง Care Plus จากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งทุกระยะ ครอบคลุมเทคโนโลยีการรักษาทางการแพทย์ ทั้งแบบ Targeted Therapy, Immunotherapy และ Stem Cell Transplant ทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก วงเงินคุ้มครอง 5 ล้านบาทต่อปี เบี้ยประกันเพียงวันละ 8 บาท*
✔️ ดูแลค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรังทุกระยะ ทั้ง IPD และ OPD ปีละ 5 ล้านบาท*
✔️เลือกความคุ้มครองโรคร้ายแรง มะเร็ง หรือไตวายเรื้อรัง พิเศษ! หากเลือกความคุ้มครองทั้งสองโรค เบี้ยประกันจะลดลงสูงสุด 10%
✔️ครอบคลุมการรักษาสมัยใหม่สำหรับโรคมะเร็งและภาวะไตวายเรื้อรัง เช่น การบำบัดแบบตรงเป้าหมาย การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด การกรองเลือดแบบออนไลน์ และการปลูกถ่ายไต
✔️คุ้มครองพิเศษเพิ่มกรณีปรึกษาจิตเวชจากโรคมะเร็ง หรือ โรคไตเรื้อรัง ค่าห้อง ค่ายา และค่ารักษาตั้งแต่เริ่มการรักษา
✔️ ไม่ต้องกังวล เรายังคุ้มครองโรคประจำตัวอีกด้วย อายุที่เข้ารับกรมธรรม์คือ 30 วัน – 80 ปี พร้อมความคุ้มครองระยะยาวถึงอายุ 99 ปี
*สำหรับผู้เอาประกันภัยเพศชาย อายุ 35 ปี ที่เลือกความคุ้มครองโรคมะเร็งและโรคไตเรื้อรัง แผน 5 ล้านบาท ชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
- สำหรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็ง และ/หรือ โรคไตวายเรื้อรัง จะจ่ายตามค่ารักษาที่บริษัทกำหนด
- ระยะเวลาความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมจะต้องไม่เกินระยะเวลาความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบอยู่
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด
- การรับประกันภัยต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของบริษัท
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต และธนาคารกำหนด
- เงื่อนไขเป็นไปตามมาตรฐานและความจำเป็นทางการแพทย์
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
แหล่งข้อมูล: ข้อมูลสืบค้นเมื่อ 03/08/2023
🔖 จากไทยรัฐ
นำมาจากเว็บไซต์เมืองไทยประกันชีวิต


