คำอธิบาย
การทดสอบแอนติบอดีต่อเชื้อก่อโรคแบบอาร์เรย์ 12
อาร์เรย์ 12 มองหาแอนติบอดี IgG ต่อเชื้อก่อโรคหลายชนิดที่เชื่อมโยงกับโรคภูมิต้านตนเองในงานวิจัย แนวคิดคือมีสมมติฐานว่าโรคภูมิต้านตนเองหลายชนิดถูกกระตุ้นโดยการติดเชื้อผ่านการเลียนแบบโมเลกุลหรือการอักเสบเรื้อรัง
การทดสอบนี้วัดอะไร?
แผงนี้อาจประกอบด้วย:
- EBV (ไวรัส Epstein-Barr) – เกี่ยวข้องกับโรคลูปัส, โรค MS และอื่นๆ
- ค็อกซากีไวรัส – เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโรคเบาหวานประเภท 1
- C. jejuni – เชื่อมโยงกับโรค Guillain-Barré (ผ่านการเลียนแบบแกงกลิโอไซด์)
- H. pylori – เชื่อมโยงกับโรคกระเพาะอักเสบจากภูมิคุ้มกัน ต่อมไทรอยด์ ฯลฯ
- Yersinia – เชื่อมโยงกับภาวะภูมิคุ้มกันทำลายต่อมไทรอยด์ (Graves')
- C. trachomatis หรืออื่นๆ อาจเป็นสาเหตุของโรคข้ออักเสบ
- Parvovirus B19 – เชื่อมโยงกับ RA
- C. pneumoniae – อาจเชื่อมโยงกับ MS
- โรคบอร์เรเลีย (Lyme) – บางครั้งเกี่ยวข้องกับโรคภูมิแพ้ตัวเอง
- โรคแคนดิดาหรือเชื้อรา – บางคนคิดว่าโรคแคนดิดาเรื้อรังสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการคล้ายโรคภูมิแพ้ตัวเองได้
- อาจเป็น HHV-6 (ไวรัสอีกชนิดหนึ่งที่เชื่อมโยงกับ MS)
- อาจเป็น Porphyromonas gingivalis (แบคทีเรียในช่องปากที่เชื่อมโยงกับ RA ผ่านการซิทรูลลิเนชัน)
การทดสอบนี้เหมาะกับใครที่สุด?
ผู้ป่วยที่มีประวัติการสัมผัสกับการติดเชื้อบางชนิดอย่างมีนัยสำคัญ เช่น โรคโมโนนิวคลีโอซิส (EBV) รุนแรง หรือถูกเห็บกัดหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับโรคไลม์ ซึ่งขณะนี้กำลังประสบกับโรคภูมิแพ้ตนเอง บุคคลที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเชื้อรา
การทดสอบนี้ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนเองอาจมีการติดเชื้อเรื้อรัง เช่น ไวรัส Epstein-Barr ที่กลับมาทำงานอีกครั้ง (EBV) ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอาการอ่อนเพลียเรื้อรังหรือปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันตนเอง ผล IgG ที่เป็นบวกบ่งชี้ว่าเคยสัมผัสเชื้อมาก่อน หากระดับ IgG สูงเกินไปหรือเพิ่มขึ้นอย่างมาก อาจบ่งชี้ว่ามีการติดเชื้ออยู่ แม้ว่าการทดสอบนี้จะไม่ตรงจุดเท่ากับการทดสอบหาเชื้อจุลินทรีย์โดยตรง (เช่นเดียวกับ PCR) แต่ก็ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ
การใช้ทางคลินิก
การทดสอบนี้ใช้เป็นเครื่องมือคัดกรองการติดเชื้อเรื้อรังที่อาจมองไม่เห็นในทันที แต่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ในทางคลินิก หากผู้ป่วยมีแอนติบอดีต่อตนเองหรือมีอาการผิดปกติของภูมิคุ้มกันตนเอง การทดสอบนี้สามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้ป่วยมีระดับแอนติบอดีต่อเชื้อโรคบางชนิดสูงหรือไม่ ระดับแอนติบอดีที่สูงอาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อเรื้อรังหรือการติดเชื้อในอดีตที่อาจทำให้ภาวะภูมิคุ้มกันตนเองรุนแรงขึ้น การรักษาหรือจัดการกับการติดเชื้อนี้อาจช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยได้
ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์อาจใช้ผลการทดสอบนี้เพื่อเป็นแนวทางในการรักษา เช่น ยาต้านไวรัสหรือยาต้านจุลินทรีย์สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง

บทวิจารณ์
ยังไม่มีรีวิว